[review] Developers.IO Showcase : LINE mini App ตอบโจทย์ชีวิต new normal #devio_showcase

[review] Developers.IO Showcase : LINE mini App ตอบโจทย์ชีวิต new normal #devio_showcase

งานสัมมนา Developers.IO Showcase ที่ญี่ปุ่นได้เล่าเกี่ยวกับ Super App ที่ชื่อ LINE mini App ซึ่งทางคลาสเมธอด และ LINE ได้ร่วมกันพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์รูปแบบชีวิตใหม่หรือ new normal ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19
Clock Icon2020.12.23

この記事は公開されてから1年以上経過しています。情報が古い可能性がありますので、ご注意ください。

ร่วมสัมนา Developers.IO Showcase

สวัสดีค่ะ เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 2563 ที่ผ่านมา จิ๋วและพี่ปอได้มีโอกาสเข้าร่วมสัมมนาออนไลน์ที่ชื่อว่า Developers.IO Showcase จัดโดยบริษัท Classmethod ที่ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสัมมนาที่หลาย ๆ บริษัทจะมาเล่าถึงเทคโนโลยีต่าง ๆ ซึ่งมีส่วนช่วยในการให้การบริการลูกค้าไปจนถึงการจัดการจัดการภายในบริษัททำได้ดีขึ้น ตัวจิ๋วเองที่ได้เข้าร่วมฟังสัมมนาก็รู้สึกตื่นตาไปกับการพัฒนาและใช้งานเทคโนโลยีของคนญี่ปุ่นมาก ๆ ค่ะ จึงจะมาเล่าความประทับใจและเนื้อหาที่ได้รับฟังมาในวันนั้นไว้ในบล็อกนี้ค่ะ และนอกจากบล็อกของจิ๋วแล้วก็ยังมีบล็อกของพี่ปอที่เขียนเกี่ยวกับงาน Developers.IO Showcase ในครั้งนี้เหมือนกันค่ะ สามารถไปตามอ่านได้ที่ลิ้งก์นี้ได้ค่ะ

LINE mini App ตอบโจทย์ชีวิต New normal

ตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด 19 ชีวิตของพวกเราก็ต้องปรับตัวกันค่อนข้างมาก หลายสิ่งหลายอย่างเริ่มเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคดิจิทัลมากขึ้น เกิดวัฒนธรรมใหม่ที่คนทั่วโลกต้องเริ่มเรียนรู้ไปด้วยกันคือ New normal เราต้องเว้นระยะห่างกันมากขึ้น ปัญหาหนึ่งที่จิ๋วคิดว่าทุกคนรับรู้เหมือนกันคือเรานัดกันไปรับประทานอาหารนอกสถานที่กันยากขึ้น ไม่เพียงแต่ร้านอาหารจะต้องเว้นระยะห่างเพื่อความปลอดภัยทำให้รับคนได้น้อย รอคิวกันนานขึ้น แต่ละร้านก็มีวิธีการรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 แตกต่างกัน บางร้านก็ต้องนั่งสลับฟันปลา บางร้านไม่เว้นระยะห่างแต่มีกระจกกั้น ส่วนตัวจิ๋วคิดว่าการรับประทานอาหารร่วมกันไม่ใช่แค่การเติมเต็มทางร่างกายให้อิ่มท้องอย่างเดียว แต่ช่วงเวลาที่เราใช้ร่วมกันกับคนสำคัญของเราบนโต๊ะอาหารก็เป็นอาหารใจสำคัญเช่นกัน หลายคนเติมกำลังใจด้วยการออกไปรับประทานอาหารหรือพบปะสังสรรค์กับเพื่อนที่ร้านค้าต่าง ๆ แต่พอเจอสถานการณ์โควิดก็ต้องพับโปรเจคที่เคยนัดหมายเก็บไว้ก่อนชั่วคราว

ในงานสัมมนานี้บริษัท LINE เขาก็ได้นำเสนอเครื่องมือที่พัฒนาร่วมกับบริษัท Classmethod ที่จะมาแก้ปัญหานี้คือ "LINE mini App" เขาบอกว่า LINE mini App เป็นแพลตฟอร์มที่เกิดขึ้นมาเพื่อสนับสนุนไลฟ์สไตล์ของทุกคน ช่วยให้ธุรกิจร้านค้าสามารถสร้างประสบการณ์การใช้งานของลูกค้าที่ทรงคุณค่าได้สมบูรณ์แบบที่สุด และสามารถเข้าใช้งานได้ทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ โดยเจ้าตัว LINE mini App ก็จะเปรียบเสมือนแอปพลิเคชันของร้านค้านั้น ๆที่อยู่บนแอปพลิเคชันสื่อสาร LINE อีกทีนึงค่ะ เราสามารถที่จะเข้าถึงแอพร้านค้าต่าง ๆ และทำกิจกรรมของแอพนั้น ๆ ผ่านการเข้าแอพไลน์ได้ค่ะ ทำให้เราในฐานะผู้ใช้ก็จะได้ประโยชน์ตรงที่ไม่ต้องโหลดแอปพลิเคชันร้านค้ามากมายมาลงเครื่องไว้ หมดปัญหาการกินพื้นที่มือถือและการหาแอพร้านค้าจนตาลาย เป็นการยกระดับการบริการลูกค้า โดยเปลี่ยนผ่านจากยุคของ Native App หรือแอปพลิเคชันเดี่ยว ๆ ในแต่ละอุปกรณ์ มาสู่ยุคของ Super App ซึ่งเป็นแอพศูนย์รวม เข้าถึงได้ทุกบริการในแอพเดียว

ตัวอย่างการใช้งาน LINE mini App

นอกจากจะแนะนำ LINE mini App แล้ว ทางบริษัทไลน์ก็ได้พูดถึงกรณีตัวอย่างร้านค้าที่ใช้งาน LINE mini App ว่ามีส่วนในการสร้างประสบการณ์ที่ดีกับลูกค้าให้ได้อย่างไร จิ๋วเลยอยากสรุปเฉพาะหัวข้อที่น่าสนใจมาให้ทุกคนได้อ่านกัน

ร้าน Sushiro ในประเทศญี่ปุ่นกับปัญหาคนรอคิวหน้าร้าน

ปัญหาที่ร้านซูชิโรพบน่าจะเป็นปัญหาที่ร้านอาหารหลาย ๆ ร้านกำลังเผชิญอยู่ คือ การเว้นระยะพื้นที่ทำให้รับลูกค้าได้น้อยลง มีลูกค้ามารอคิวนานมากขึ้น และไม่สามารถติดต่อสื่อสารกับลูกค้าเพื่ออัพเดทสถานการณ์หน้าร้านในตอนนี้ได้ ดังนั้นร้านซูชิโรจึงได้ออกแบบ LINE mini App ของร้านตัวเองให้มีฟังก์ชัน
1.หน้าจอแสดงข้อมูลที่อัพเดทให้ลูกค้าทราบว่าสถานการณ์ร้านตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง ทำให้ร้านค้าสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้โดยตรง
2.สามารถจองคิวและแสดงจำนวนคิว รวมไปถึงแจ้งเตือนทางไลน์เมื่อใกล้จะถึงคิวของตัวเอง ทำให้ลูกค้าไม่ต้องไปรอที่ร้านนาน
3.สามารถแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับการจองให้กับเพื่อนได้ ทำให้เพื่อนอัพเดทข้อมูลการจองได้สะดวกมากยิ่งขึ้น สื่อสารไม่ผิดพลาด ไม่ต้องเสียเวลานัดรวมตัวนาน
4.สามารถสะสมคะแนนผ่านทางแอพ LINE mini App ได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องกังวลเรื่องการลืมบัตรสะสมคะแนน รวมถึงการคำนวณคะแนนการใช้สิทธิส่วนลดต่าง ๆ ก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย

ร้าน PAL Closet ร้านเสื้อผ้าชื่อดังที่เพิ่มความใกล้ชิดกับลูกค้าโดยการติดต่อผ่าน LINE

นอกจากฟังก์ชันการสั่งซื้อออนไลน์ของร้านเสื้อผ้า PAL Closet แล้ว ทางร้านยังได้พัฒนาแอพให้มีฟังก์ชันพิเศษที่สามารถ
1.สมัครสมาชิกได้ไวภายใน 5 วินาที สั่งสินค้าให้เสร็จสิ้นภายใน 20 วินาที
2.สะสมคะแนนโดยการสแกน QR code และแจ้งข้อมูลการสะสมคะแนนผ่านทางไลน์
3.สามารถแนะนำเสื้อผ้าอื่น ๆ ของทางร้านที่เข้ากันกับสไตล์ของสินค้าที่ลูกค้าเคยซื้อไปแล้วได้

ร้าน dinii self ร้านอาหารที่ลดการสัมผัสโดยใช้การสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชัน

ร้าน dinii self มีนโยบายลดการสัมผัสระหว่างพนักงานกับลูกค้า จึงออกแบบแอพให้ลูกค้าสามารถสั่งอาหารได้ด้วยตัวเองโดยมีฟังก์ชัน
1.สแกน QR codeเพื่อเข้าหน้าเมนูได้ สำหรับลูกค้าที่ไม่ได้แอดเฟรนด์ร้าน ทำให้ลูกค้าสามารถสั่งอาหารได้ง่าย และหากลูกค้าไม่มีโทรศัพท์มือถือก็สามารถใช้เครื่องของทางร้านได้
2.แสดงโปรโมชั่นและคำอธิบายเมนูอาหารในหน้าสั่งอาหาร
3.สามารถเห็นได้ว่าใครในโต๊ะกำลังสั่งเมนูดังกล่าวด้วย
4.ติดตามคำสั่งซื้อเมนูอาหาร
5.ดูยอดค่าใช้จ่าย และทำการจ่ายเงินได้ด้วยตัวเอง

จะเห็นได้ว่าฟังก์ชันของ LINE mini App ของร้านค้าแต่ละร้านก็มีความสามารถแตกต่างกันไป เนื่องจาก LINE mini App เป็นเสมือนแอพเล็ก ๆ ที่รวมอยู่ในไลน์ ดังนั้นเจ้าของร้านค้าแต่ละร้านสามารถออกแบบและพัฒนาคอนเทนต์ภายใน LINE mini App เพื่อตอบสนองต่อกลุ่มลูกค้าของตนได้อย่างเหมาะสมด้วยตนเอง เช่นเดียวกันกับการพัฒนาแอพส่วนตัวของทางร้าน ซึ่งหลังจากที่ทางไลน์ได้เปิดตัว LINE mini App ไปเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2020 ที่ผ่านมา ก็มีแผนที่จะสนับสนุนการพัฒนา LINE mini App ของร้านค้าแต่ละร้าน รวมถึงมีแผนที่จะเปิดเป็น open platformในปี 2021 ซึ่งใครก็สามารถพัฒนา LINE mini App ได้

ส่วนตัวจิ๋วค่อนข้างตื่นตาตื่นใจและในฐานะผู้บริโภคคนหนึ่งก็อยากจะใช้งานบริการนี้มาก ๆ ค่ะ เพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ในช่วงนี้ทำให้การใช้ชีวิตในรูปแบบเดิม ๆ ของเรามีความลำบากยิ่งขึ้น และเจ้า LINE mini App ก็จะกลายเป็นฮีโร่ที่ช่วยให้เราสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้สะดวกสบายมากขึ้น ได้เติมพลังและใช้ชีวิตอย่างมีชีวิตชีวาได้ใกล้เคียงกับช่วงก่อนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด

Share this article

facebook logohatena logotwitter logo

© Classmethod, Inc. All rights reserved.